ยูฟ่าระบุว่าพาเลซละเมิดกฎการถือครองหลายสโมสร (Multiclub Ownership) โดยพิจารณาว่าบริษัท Eagle Football Holdings ของจอห์น เท็กซ์เตอร์ มีอำนาจควบคุมทั้งพาเลซและโอลิมปิก ลียง สโมสรในฝรั่งเศส ซึ่งขัดต่อข้อกำหนดของยูฟ่า แม้สโมสรจะเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลก (CAS) แล้วก็ตาม

สตีฟ พาริช ประธานสโมสรพาเลซ เรียกคำตัดสินนี้ว่า “เป็นหนึ่งในความอยุติธรรมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยุโรป” พร้อมเปิดเผยว่า วูดี้ จอห์นสัน เจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอล New York Jets ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติของพรีเมียร์ลีกแล้ว และเตรียมซื้อหุ้น 43% จากเท็กซ์เตอร์ในเร็ว ๆ นี้ แต่ยูฟ่าระบุว่าดีลดังกล่าวเกิดขึ้นช้าเกินกว่ากำหนดเส้นตายเมื่อ 1 มีนาคม

กลุ่มแฟนบอล Holmesdale Fanatics ผู้อยู่เบื้องหลังการจัดแสดงผ้าใบขนาดใหญ่ในเกมที่เวมบลีย์ เป็นผู้จัดการเดินขบวนครั้งนี้ โดยมีแบนเนอร์เขียนว่า “ยูฟ่า: ล้มเหลวทางศีลธรรม ยกเลิกคำตัดสินซะ” และ “ฟุตบอล: สร้างโดยคนจน ถูกขโมยโดยคนรวย”

แฟนบอลอย่าง จอช ฮาร์เนส กล่าวว่า “ไม่ยุติธรรมเลยที่เราชนะถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก แต่กลับถูกลดชั้นจากยูโรปาลีก เราสมควรได้เล่นที่นั่นจริง ๆ”

ขณะเดียวกัน แฟนบอลกว่า 3,000 คนร่วมลงชื่อในแคมเปญออนไลน์เรียกร้องให้ยูฟ่ายกเลิกคำตัดสินนี้ ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่ข้อเสนอวางหุ้นของเท็กซ์เตอร์และหุ้นส่วน เดวิด บลิตเซอร์ (ผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสรบรอนด์บี้) ไว้ใน blind trust ถูกปฏิเสธเพราะยื่นเกินเส้นตาย

ยูฟ่าเคยอนุญาตให้บางสโมสรที่มีเจ้าของเดียวกันลงแข่งขันร่วมกัน หากวางหุ้นใน blind trust ก่อนถึงเส้นตาย โดยยูฟ่าระบุว่าบลิตเซอร์ไม่มีอิทธิพลในการตัดสินใจที่พาเลซ จึงไม่เป็นปัญหากรณีของบรอนด์บี้

พาริชยังตั้งคำถามต่อระบบของยูฟ่า ผ่านโพสต์บน X โดยชี้ว่า ต่อให้เขาและผู้ถือหุ้นรายอื่นวางหุ้นใน blind trust ก่อนเส้นตาย แต่เพราะ Eagle Football ยังถือหุ้นอยู่ สโมสรก็ยังจะถูกตัดสิทธิ์อยู่ดี

การประท้วงครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การเรียกร้องสิทธิของสโมสรเท่านั้น แต่ยังเป็นเสียงจากแฟนบอลที่รู้สึกว่า ฟุตบอลยุคใหม่กำลังถูกครอบงำโดยผลประโยชน์และกลุ่มทุนรายใหญ่ มากกว่าคุณค่าของเกมที่แฟนบอลยึดถือ.